Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

อาการของการตั้งครรภ์

Posted By Plookpedia | 21 เม.ย. 60
334 Views

  Favorite


เมื่อมีการตั้งครรภ์ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือมีอาการต่าง ๆ เกิดขึ้นหลายอย่างซึ่งอาจช่วยให้ทราบได้ว่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นหรือไม่อาการเหล่านี้ ได้แก่
1. ประจำเดือดขาดหายไปเป็นการเปลี่ยนแปลงขั้นแรกของการตั้งครรภ์ สำหรับผู้ที่แต่งงานแล้ว และเคยมีประจำเดือนมาตรงตามเวลา แต่โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ หรือความวิตกกังวล ก็อาจเป็นสาเหตุให้ประจำเดือนขาดหายไป หรือไม่มาตามกำหนดได้
2. มีอาการแพ้ท้อง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ น้ำลายออกมากกว่าปกติอยากกินของเปรี้ยว ๆ หรือของแปลก ๆ ได้กลิ่นต่าง ๆ มากผิดธรรมดาบางครั้งมีอารมณ์อ่อนไหว โกรธง่าย ใจน้อย อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ประมาณสองในสามของผู้ตั้งครรภ์และเกิดขึ้นมากหรือน้อยแตกต่างกันไป
3. มีอาการเปลี่ยนแปลงของเต้านมและหัวนมตามปกติก่อนประจำเดือนจะมาเล็กน้อยเต้านมจะคัดตึงและกดเจ็บเมื่อตั้งครรภ์จะมีอาการเหล่านี้เพิ่มขึ้นเต้านมอาจมีขนาดโตขึ้นหัวนมและผิวหนังบริเวณลานหัวนมจะมีสีคล้ำมากขึ้นโดยเฉพาะครรภ์แรกจะสังเกตเห็นได้ง่ายและในระยะครรภ์แก่อาจจะมีน้ำนมไหลออกมา
4. ถ่ายปัสสาวะบ่อยแต่ไม่แสบไม่ขัดหรือขุ่นอาการนี้จะพบในอายุครรภ์ 2-3 เดือนแรกเนื่องจากมดลูกไปกดเบียดกระเพาะปัสสาวะและจะมีอาการนี้อีกครั้งในเดือนสุดท้ายของครรภ์เนื่องจากศีรษะเด็กไปกดเบียดกระเพาะปัสสาวะ 
5. คลำพบก้อนที่บริเวณเหนือหัวหน่าวซึ่งจะคลำได้เมื่ออายุครรภ์เกิน 3 เดือนไปแล้วแต่ในคนผอมอาจจะคลำพบก่อนระยะนี้ก็ได้ 
6. เด็กดิ้นในครรภ์แรกแม่จะรู้สึกว่าเด็กดิ้นเมื่ออายุครรภ์ประมาณ 20 สัปดาห์ สำหรับผู้ที่เคยมีบุตรมาแล้วจะรู้สึกเร็ว คือ อายุครรภ์ประมาณ 18 สัปดาห์

 

การวินิจฉัยการตั้งครรภ์ 

มีหลายวิธีอาจใช้วิธีใดวิธีหนึ่งหรือใช้หลายวิธีประกอบกัน ได้แก่ 
1. การซักประวัติได้ว่าขาดประจำเดือนและมีอาการต่าง ๆ ของการตั้งครรภ์ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว 
2. การตรวจหน้าท้อง คลำได้ส่วนต่าง ๆ ของเด็กและฟังได้ยินเสียงหัวใจเด็ก 
3. การตรวจภายในพบการเปลี่ยนแปลงของผนังช่องคลอดและปากมดลูกและพบว่าขนาดของมดลูกโตขึ้น 
4. การตรวจระดับฮอร์โมนในเลือดหรือในปัสสาวะระดับของฮอร์โมนนี้จะสูงขึ้นเมื่อมีการตั้งครรภ์และจะสูงสุดเมื่ออายุครรภ์ประมาณ 8-10 สัปดาห์ 
5. การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (ultra- sound) สามารถวินิจฉัยการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 5-6 สัปดาห์ 

 

การคะเนวันคลอด 

โดยปกติทารกจะคลอดเมื่ออายุครรภ์ครบกำหนด คือ 40 สัปดาห์หรือ 280 วัน นับจากวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้ายดังนั้นในหญิงที่มีประจำเดือนมาตรงและสม่ำเสมอทุก 28 วัน เราจะสามารถคะเนวันคลอดได้ โดยนับจากวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้ายไป 280 วัน ซึ่งในทางปฏิบัติเรานิยมนับย้อนหลังไป 3 เดือน แล้วบวกอีก 7 วัน ก็จะคะเนวันที่และเดือนที่จะคลอดได้ 

ในกรณีที่จำวันที่มีประจำเดือนครั้งสุดท้ายไม่ได้เราอาจคะเนวันคลอดได้จากวันแรกที่แม่เริ่มรู้สึกว่าเด็กดิ้นโดยทั่วไปแม่จะเริ่มรู้สึกว่าเด็กดิ้นเมื่ออายุครรภ์ได้ 20 สัปดาห์ ในครรภ์แรกและ 18 สัปดาห์ในครรภ์หลังดังนั้นเราสามารถคะเนวันคลอดโดยนับจากวันแรกที่เริ่มรู้สึกว่าเด็กดิ้นไปอีก 20 สัปดาห์ ในครรภ์แรกและ 22 สัปดาห์ในครรภ์หลังวิธีนี้มีโอกาสคลาดเคลื่อนได้มากกว่าวิธีแรกเพราะอาศัยความรู้สึกของแม่เป็นหลัก 

นอกจากนี้แพทย์สามารถคะเนวันคลอดได้จากการประมาณอายุครรภ์ขณะตรวจโดยดูจากขนาดของมดลูกรวมทั้งการวัดขนาดของศีรษะและลำตัวของเด็กในครรภ์โดยอาศัยเครื่องมือตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง

 

การฝากครรภ์ 

การฝากครรภ์ถือเป็นเวชศาสตร์ป้องกันอย่างหนึ่งเพื่อการป้องกันรักษาและลดอันตรายจากโรคแทรกซ้อนอันอาจเกิดขึ้นได้กับมารดาและทารกทั้งทางร่างกายและจิตใจในระยะก่อนคลอดระยะคลอดและหลังคลอด 

เมื่อทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ควรรีบไปฝากครรภ์เพื่อรับคำแนะนำการปฏิบัติตัวของมารดาและการดูแลทารกจากแพทย์หรือพยาบาลอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์จะนัดตรวจเป็นระยะ ๆ ซึ่งมีความสำคัญมากเพราะแพทย์สามารถตรวจพบ และเปรียบเทียบได้ว่าครรภ์นั้นผิดปกติหรือไม่เด็กเจริญเติบโตตามปกติหรืออยู่ในท่าปกติหรือเปล่าอีกทั้งเพื่อป้องกันและรักษาโรคแทรกซ้อนซึ่งอาจเกิดขึ้นในระยะต่าง ๆ ของการตั้งครรภ์

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plookpedia
  • 15 Followers
  • Follow